วันอาทิตย์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

บทความพิเศษ

หลักการสืบสวนคดีอาญาพ.ต.อ.ไพฑูรย์ เพิ่มศิริวิศาล ศาสตราจารย์ (สบ 5) ภาควิชาการสืบสวน รร.นรต. การสืบสวนในตัวของมันเองยังไม่มีองค์ความรู้ในระดับทฤษฎี แต่อยู่ในระดับหลักการและเทคนิค การปฏิบัติตามหลักการจะทำให้มีผลการสืบสวนที่ได้ผล เทคนิคการสืบสวนเป็นเรื่องเฉพาะคดี เฉพาะสถานที่ เฉพาะบุคคล เฉพาะสถานการณ์ เทคนิคบางอย่างใช้ได้กับสถานที่แห่งหนึ่ง แต่กับอีกสถานที่หนึ่งเทคนิคดังกล่าวนำมาใช้ไม่ได้ผล ในวิชาการสืบสวนจึงมีการสอนหลักการเทคนิคการสืบสวนแต่การสืบสวนบางอย่างก็ไม่ได้ใช้หลักการแต่เป็น “โชค” โชคดีที่ทำการสืบสวนได้ทั้งที่ไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไร เมื่อหลายปีผ่านมาผู้เขียนปฏิบัติหน้าที่เป็นรองสารวัตร ทำหน้าที่หัวหน้าสายสืบอยู่ที่ สน.วัดพระยาไกร ได้มีสายลับแจ้งว่า นายถวิล ฯ เป็นคนต่างถิ่นมาเช่าบ้านพักอาศัยอยู่ในซอยกิ่งจันทร์ มีอาวุธปืน มีพฤติการณ์ที่ไม่น่าไว้วางใจ แต่ผู้เขียนก็ยังไม่มีเวลาไปทำการสืบสวนอย่างจริงจังเพราะยังมีงานอื่นให้ติดตามสืบสวนอีกมากแต่ผู้เขียนก็ได้จดและทราบถึงตำหนิรูปพรรณของนายถวิล ฯ และได้รายละเอียดว่าน่าจะมีอาวุธปืนซุกซ่อนอยู่ในบ้าน สิ่งเหล่านั้นเป็นข้อมูลที่ผู้เขียนได้รายละเอียดไว้แต่หน้าตาของนายถวิล ฯ เป็นอย่างไร ผู้เขียนไม่เคยเห็น วันหนึ่งผู้เขียนกับพวก 2-3 คนเดินตรวจท้องที่แต่งกายนอกเครื่องแบบ ได้เดินสวนกับชายผู้หนึ่งแต่งกายและมีลักษณะคล้ายนายถวิล ฯ ชายคนดังกล่าวเดินสวนกับผู้เขียนไม่มีอาการรู้จักผู้เขียนแต่อย่างใด เพราะถ้าเป็นผู้ที่มีบ้านพักอาศัยอยู่ในซอยดังกล่าวมักจะรู้จักผู้เขียนเสียเป็นส่วนมาก ผู้เขียนคิดว่าชายคนดังกล่าวน่าจะเป็นนายถวิล ฯ เมื่อผู้เขียนเดินสวนทางไปได้ประมาณ 3-4 ก้าว ผู้เขียนได้ตะโกนว่า “ถวิล” เท่านั้นแหละครับชายคนดังกล่าวหันมาตามเสียงที่เรียก ผู้เขียนจึงเดินกลับมาหาชายคนดังกล่าวออกอาการงง ๆ เล็กน้อยผู้เขียนยิ้มและเดินเข้าหาพร้อมทั้งทักทาย เมื่อถึงตัวชายคนดังกล่าว ผู้เขียนได้แสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจขอตรวจหลักฐานบัตรประจำตัวประชาชน ชายคนดังกล่าวได้นำบัตรออกมาแสดง ชายคนดังกล่าวชื่อนายถวิล ฯ ผู้เขียนจึงเชื่อว่าน่าจะเป็นนายถวิล ฯ คนเดียวกับที่ผู้เขียนทราบประวัติและพฤติการณ์มา ผลการตรวจค้นพบอาวุธปืนพกจำนวน 1 กระบอก จึงได้นำส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี สำหรับอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวเป็นอาวุธปืนที่ผลิตจากต่างประเทศตามสภาพน่าจะเป็นอาวุธปืนที่มีทะเบียน แต่ที่ปรากฏอยู่หมายเลขตัวปืน และหมายเลขทะเบียนได้ถูกขูดลบหายไปจึงได้สอบถามนายถวิล ฯ รับว่าได้ลักอาวุธปืนกระบอกดังกล่าวมาจากผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง จึงได้พาผู้เขียนไปชี้ที่เกิดเหตุ ปรากฎว่านายถวิล ฯ ได้เข้าไปลักทรัพย์จากบ้านของผู้ใหญ่บ้านคนหนึ่ง บ้านหลังดังกล่าวอยู่ในเขตอำเภอวังจันทร์ จ.ระยองโชคเหมือนฝนที่จะตกเมื่อไร เวลาใด เราไม่อาจจะหยั่งทราบ หน้าฝนมักจะมีฝนตกอยู่เสมอ ๆ ถ้าเรามีความพร้อมมีโอ่ง มีกระป๋องคอยรองรับน้ำฝนเราก็จะได้น้ำฝน แต่ถ้าเราไม่มีโอ่งไม่มีกระป๋องเพื่อรองน้ำฝนเมื่อฝนตกเราก็จะไม่ได้น้ำฝน แต่ถ้าเรามีโอ่งมีกระป๋องแต่ขณะที่ฝนตกเรากลับคว่ำโอ่งคว่ำกระป๋องเราก็จะไม่ได้น้ำฝนเช่นเดียวกัน ฝนคือโชคอาจจะเกิดเมื่อใดก็ได้ โอ่งน้ำและกระป๋องน้ำคือหลักการสืบสวนที่เราจะต้องมีอยู่เสมอการเปิดโอ่งหงายกระป๋อง คือเทคนิคที่จะให้ได้น้ำฝน ฝนตกแต่ไม่ได้น้ำฝน เสมือนมีโชคแต่ไม่ได้โชค หลักการสืบสวนจากทรัพย์ไปสู่ตัวคนร้าย มีขั้นตอนดังนี้ 1. ขั้นตอนการพิสูจน์ว่าทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ได้แก่ เป็นทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด เป็นทรัพย์ที่ใช้ในการกระทำความผิด เป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด เป็นทรัพย์ที่มีไว้เพื่อใช้ในการกระทำความผิด 2. ขั้นตอนไปสู่ตัวคนร้าย เมื่อทำการพิสูจน์ได้แล้วว่าทรัพย์เหล่านั้นเป็นทรัพย์ที่ มีไว้ได้มา ได้ใช้ เพื่อใช้ ในการกระทำความผิดย่อมแสดงว่า 2.1 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์นั้นคือคนร้าย หรือ 2.2 ผู้ที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์นั้นไม่ใช่คนร้าย แต่สามารถบอกเล่าเรื่องราวอันเกี่ยวกับทรัพย์นั้นได้ว่ามีความหมายเป็นมาอย่างไร อันจะนำไป สู่การแสวงหาข้อเท็จจริงต่อไป แนวทางในการที่จะสืบสวนว่าทรัพย์ใดเป็นทรัพย์ที่ผิดกฎหมาย มีแนวทางดังนี้ 1. ตรวจสอบจากการจดทะเบียนของทรัพย์นั้น การจดทะเบียนนั้นสามารถแบ่งออกได้เป็นสองกรณี คือ 1.1 การจดทะเบียนกรรมสิทธิ์ 1.2 การจดทะเบียนทางปกครองเมื่อผู้สืบสวนพบทรัพย์ที่สงสัย และทรัพย์นั้นมีการจดทะเบียนไว้ ผู้สืบสวนก็สามารถที่จะตรวจสอบถึงความถูกต้องของทรัพย์นั้น ผลจากการตรวจสอบจะเป็นข้อมูลให้ผู้สืบสวนตัดสินใจกระทำการไปตามอำนาจและหน้าที่อย่างถูกต้องต่อไป 2. ตรวจสอบจากหมายเลขประจำตัวทรัพย์ บริษัทผู้ผลิตสินค้า และสินค้านั้นมีราคาสูงหรือมีความจำเป็นด้วยเหตุผลใด ๆ ก็ตามผู้ผลิตสินค้าจะสร้างหมายเลขประจำตัวทรัพย์ และมีการเก็บประวัติสินค้านั้นตามหมายเลขประจำตัวทรัพย์ เช่น เครื่องรับโทรทัศน์ 3. ตรวจสอบจากรหัสลับประจำตัวทรัพย์ ทรัพย์บางประเภทมีความสำคัญต่อการให้บริการหลังการขาย เป็นทรัพย์ที่มีราคาสูง เป็นทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงของประเทศ เป็นทรัพย์ที่ผู้ผลิตต้องการควบคุมและติดตามตรวจสอบ 4. เอกสารประกอบตัวทรัพย์ 5. ตรวจสอบจากความเชื่อมโยงของตัวทรัพย์ โดยใช้สหวิทยาการ 5.1 พิสูจน์โดยอาศัยเหตุผลทางชีวเคมี 5.2 พิสูจน์โดยหลักวิชากลศาสตร์ 6. ตรวจสอบจากตำหนิที่ถูกสร้างบนตัวทรัพย์ ในการสืบสวนคดีประทุษร้ายต่อทรัพย์มีหลักการสืบสวนที่สำคัญก็คือ 1. การสืบสวนจากคนร้าย ตัวทรัพย์ได้แก่การติดตามพฤติการณ์ของคนร้าย จัดทำประวัติภาพถ่าย จับคนร้ายได้ ก็ทำการขยายผลในคดีอื่น ๆ ต่อไป 2. การสืบสวนจากตัวทรัพย์ คนร้ายได้แก่การพิสูจน์ว่าทรัพย์ที่สงสัยนั้นเป็นทรัพย์ที่ผิดกฎหมายหรือไม่ ถ้าทรัพย์นั้นเป็นทรัพย์ที่ผิดกฎหมายก็แสดงว่าคนที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์นั้นก็คือคนร้ายผู้กระทำผิดหรืออาจจะให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ ในการสืบสวนทรัพย์ที่ผิดกฎหมายได้แก่ ทรัพย์ที่มีไว้เป็นความผิด ทรัพย์ที่ได้ใช้ในการกระทำความผิด ทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทำความผิด และทรัพย์ที่มีไว้เพื่อจะใช้กระทำความผิด ในช่วงระยะปี พ.ศ. 2532 – 2535 ขณะที่ผู้เขียนทำงานอยู่ที่ ศปร. น. นั้น ทีมงานของ ศปร. น. มีผลการจับกุมคดีค้างเก่า และคดีสำคัญได้หลาย ๆ คดี แต่ละคดีก็เป็นการสืบสวนจากทรัพย์ไปสู่ตัวคนร้าย แต่เป็นคดีสำคัญ ๆ ทั้งสิ้น ทั้ง ๆ ที่ทีมงาน ศปร.น. ไม่มีเจตนาที่จะทำการสืบสวนคดีสำคัญ ๆ เหล่านั้นแต่อย่างใด แต่ที่จับกุมคนร้ายได้ก็เพราะตรวจรถและได้รถที่ถูกลักไป ชิงทรัพย์ ปล้นทรัพย์ไปเป็นการสืบสวนจากทรัพย์โดยอาศัยเอกสารประกอบตัวทรัพย์ ดังนั้นเอกสารประกอบตัวทรัพย์จึงมีความสำคัญ เป้าหมายของการสืบสวนคดีอาญา คือ “การแสวงหาข้อเท็จจริงและหลักฐาน ซึ่งพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจได้ปฏิบัติไป ตามอำนาจหน้าที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยของประชาชนและเพื่อทราบรายละเอียดแห่งความผิด” กล้องถ่ายรูปหัวใจของงานสืบสวน วิธีการทำงานที่ได้ผลอย่างหนึ่งของผู้เขียนคือ การนำกล้องถ่ายรูปติดตัวอยู่เสมอ มีประโยชน์ คือ 1. จับผู้กระทำผิดซึ่งหน้า 2. พูดคุยกับประชาชนขณะที่เดินตรวจ เพื่อให้ประชาชนเห็นว่าตำรวจไม่ทอดทิ้งประชาชนออกตรวจอยู่เสมอ 3. และที่สำคัญที่สุดคือ นำกล้องติดตัวไปเมื่อพบวัยรุ่นเดินสวนทางหรือจับกลุ่มคุยกันข้าง ทางผู้เขียนก้จะใช้กล้องถ่ายรูปถ่าย ภาพคนเหล่านั้นไว้ การเดินออกตรวจดังกล่าวทำให้เกิดความทั่วถึงในการตรวจและการตรวจจะกระทำอย่างไม่เป็นเวลา แต่ออกตรวจแทบทุกวันการกระทำดังกล่าวสามารถพบปะประชาชนได้อย่างทั่วถึงและสามารถถ่ายรูปวัยรุ่นได้อย่างทั่วถึงเช่นเดียวกัน เมื่อถ่ายภาพได้แล้วก็นำภาพถ่ายดังกล่าวมาล้างอัดขยายและจัดภาพให้เป็นระบบหมวดหมู่โดยนำภาพถ่ายของวัยรุ่นที่ถูกถ่ายภาพ ที่อยู่ในซอยเดียวกันมารวมไว้ในสมุดภาพเล่มเดียวกันจากนั้นก็ทำการศึกษาบุคคลตามภาพ ภาพถ่ายติดฝาห้องทำงาน การจัดหาภาพถ่าย การบริหารภาพถ่ายของคนร้ายทำให้การทำงานของผู้เขียนบรรลุผล สำเร็จประการสำคัญ ของการจัดการกับภาพถ่ายก็คือ ผู้เขียนได้นำภาพถ่ายของผู้ต้องหาและผู้ที่มีประวัติลักรถติดไว้ที่ฝาของห้องทำงานจำนวนถึง 3 ด้าน รวมทั้งหมดประมาณ 800 กว่าภาพ เมื่อผู้เขียนมาถึงหน่วยงานก็จะทำความรู้จักกับภาพถ่ายดังกล่าว เกิดความคุ้นเคยภาพของคนเหล่านี้ ประทับไว้ที่ส่วนความจำของผู้เขียนติดตามว่าผู้มีประวัติคนใดเสียชีวิตไปแล้ว คนใดมีหมายจับอยู่คนใดกำลังกำลังต้องโทษอยู่ในเรือนจำ คนใดกำลังร่วมแก็งกับใคร และก่อนจะออกจากห้องกลับบ้านเพื่อพักผ่อนก็กวาดสายตามองภาพเหล่านั้นแล้วกล่าวคำอำลาในใจ การกระทำดังกล่าวทำให้ใจเราจดจ่ออยู่กับคนที่เป็นภัยต่อสังคมเพราะในขณะที่ผู้เขียนมีตำแหน่งสารวัตร งานของสารวัตรคืองานสืบสวนติดตามจับกุมผู้กระทำผิด ถ้าสารวัตรท่านใดไม่สนใจงานของตนเองมัวแต่บริการเจ้านาย ตีกอล์ฟ คุมบ่อนการพนัน วิ่งเต้นเอาตำแหน่ง พฤติการณ์ เหล่านี้เขาเรียกว่าเสียชาติเกิด ความเป็นมาตรฐานนั้น สามรถนำมาใช้กับงานด้านการสืบสวนคดีอาญาให้เกิดประสิทธิภาพได้ โดยหลักที่ว่า “สรรพสิ่งย่อมมีความคล้ายคลึงกันในภาวะนั้น ๆ แต่มีบางสิ่งที่แตกต่างจากสรรพสิ่งอื่นในสภาวะนั้น ๆ” จากการสังเกตจะพบว่า การทำงานสืบสวนในปัจจุบันจะมีการทำการสืบสวนจากคนร้ายไปสู่ตัวทรัพย์มากกว่า การสืบสวนจากทรัพย์มาสู่ตัวคนร้าย จึงทำให้งานด้านการสืบสวนไม่เกิดประสิทธิภาพเท่าที่ควร ผู้ทำการสืบสวนจะต้องทำการคาดการณ์เอาจากสถานที่เกิดเหตุและพยานหลักฐานที่ปรากฏว่าก่อนเกิดเหตุเป็นอย่างไร ขณะเกิดเหตุมีข้อเท็จจริงอย่างไร หากผู้ทำการสืบสวนสามารถค้นพบวงจรของพฤติการณ์ในขณะเกิดเหตุ หากแตกต่างกันน่าจะเกิดจากปัจจัยบางประการมากระทำให้สิ่งนั้นแตกต่างไปจากสรรพสิ่ง ความเป็นมาตรฐานนั้นมีที่มาดังนี้ 1. เกิดจากกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ เช่น รถที่บรรทุกของหนัก ดอกยางจะจมลงติดกับพื้นถนนมากกว่า ดอกยางของรถที่บรรทุกของเบากว่า ปรากฎการณ์นั้นเกิดจากธรรมชาติในเรื่องแรงโน้มถ่วงของโลก ถ้าเกิดฝนตกถนนจะต้องเปียก ศพที่ถูกแช่แข็งภายใต้อุณหภูมิต่ำกว่าจุดเยือกแข็งย่อมจะเน่าช้ากว่าศพที่ถูกทิ้งไว้กลางแจ้ง เพราะความเย็นทำให้เชื้อแบคทีเรียเจริญเติบโตได้ช้า ในการสืบสวนได้มีการนำหลักเกณฑ์ของธรรมชาติมาใช้ในการยุติข้อเท็จจริงบางประการ 2. เกิดจากการกำหนดของมนุษย์ เป็นเรื่องที่มนุษย์ได้กำหนดมาตรฐานเอาไว้ มีทั้งการกำหนดในลักษณะที่เป็นจารีตประเพณี และ กฎหมายที่บังคับ มาตรฐานที่ถูกกำหนดเป็นกฎเกณฑ์ได้แก่ กฎหมาย ระเบียบของทางราชการ ที่บังคับใช้กับคนทั่วไป เช่น ระเบียบการพิมพ์และใช้เครื่องหมายแสดงการชำระภาษีรถยนต์ประจำปี เราอาจเรียกมาตรฐานเหล่านี้ว่า เป็นมาตรฐานทางนิตินัย 3. เกิดจากความเชื่อและความคิดเห็นของวิญญูชนในเรื่องนั้น ๆ เช่น ถ้าจะถามความคิดเห็นในเรื่องการขับรถบรรทุก ก็จะต้องเป็นความคิดเห็นของวิญญูชนผู้ที่ขับรถบรรทุกควรจะขับอย่างไร ตามวิสัยและพฤติการณ์เช่นนั้น ความคิดเห็นเรื่องการขับรถบรรทุกนั้นจะไปถามคนที่มีอาชีพขับเรือ ที่ไม่เคยขับรถน่าจะเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้น มาตรฐานของความคิดเห็น ของวิญญูชนในเรื่องนั้น ๆ จึงถือได้ว่ามีความเป็นมาตรฐานในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้เกิดจากเหตุการณ์ของธรรมชาติ หรือเกิดเป็นกฎเกณฑ์ จากข้อบัญญัติที่มนุษย์ได้สร้างขึ้น ในเรื่องวัตถุ สิ่งของ หรือบุคคล ที่มาสัมพันธ์กันหรือความสัมพันธ์ของวัตถุกับวัตถุ บุคคลกับบุคคล ที่มาสัมพันธ์กันย่อมเกิดสิ่งใหม่หรือสถานการณ์ใหม่เกิดขึ้น สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่นั้นย่อมจะมีอิทธิพลจากสิ่งเดิม ดังนั้นความสัมพันธ์ ของสรรพสิ่งจะมีลักษณะดังนี้ 1. สรรพสิ่งที่เป็นมาตรฐาน สิ่งที่ผิดไปจากมาตรฐานคือข้อสงสัยให้พิจารณาข้อสงสัยนั้นก็จะได้หลักฐานและข้อเท็จจริง ตัวอย่าง แผ่นป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีรถยนต์ทางราชการได้จัดทำขึ้นมีสี่สีคือ สีแดง สีเขียว สีน้ำเงิน และสีม่วง ถ้าหากพบว่ามีรถยนต์คันหนึ่งคันใดติดป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีเป็นสีส้ม แสดงว่าเป็นแผ่นป้ายวงกลมปลอม รถคันดังกล่าว น่าจะเป็นรถที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย 2. สรรพสิ่งที่มีความเป็นมาตรฐานตั้งแต่สองสิ่งขึ้นไปมาสัมพันธ์กัน ย่อมเกิดสิ่งใหม่ที่เป็นมาตรฐานถ้าสิ่งที่เกิดใหม่นั้นผิดไป จากมาตรฐานสิ่งนั้นคือข้อสงสัยให้พิจารณาข้อสงสัยนั้นก็จะได้หลักฐานและข้อเท็จจริง ตัวอย่าง ป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีฉบับหนึ่ง เป็นเอกสารที่ทางราชการจัดทำขึ้นไม่มีการแก้ไขข้อความ และไม่ใช่เอกสารปลอม ป้ายวงกลมดังกล่าว ติดอยู่กับกระจกรถด้านหน้าของรถยนต์คันหนึ่ง รถคันดังกล่าวมีหมายเลขตัวถัง อยู่ที่ตัวรถ หมายเลขตัวถังไม่ม ีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเป็นหมายเลขตัวถังที่ถูกต้อง กรณีเช่นนี้ความเป็นมาตรฐาน ของแผ่นป้ายวงกลม และเลขตัวรถที่มาสัมพันธ์กันคือในแผ่นป้ายวงกลม ต้องปรากฎอยู่ที่ตัวถังรถยนต์ สิ่งดังกล่าวคือความเป็นมาตรฐานที่เกิดขึ้น หากปรากฎว่าหมายเลขตัวรถยนต์ในแผ่นป้ายวงกลม และที่ตัวถังไม่ตรงกัน (แผ่นป้ายทะเบียนและตัวรถยนต์เป็นสิ่งที่ถูกต้องทั้งคู่) ดังนั้นจึงเป็นสิ่งที่ผิดไปจากมาตรฐาน (มาตรฐานคือข้อความต้องตรงกัน) จึงควรสงสัยในสิ่งนั้น (ความไม่ตรงกันของหมายเลขตัวรถที่ป้ายวงกลมและที่ตัวถังรถ) เมื่อพิจารณาข้อสงสัยดังกล่าวก็จะพบว่าป้ายวงกลมแสดงการเสียภาษีนั้นเป็นป้ายวงกลมที่ทางราชการได้ออกให้กับรถคันอื่น แต่ถูกนำมาติดไว้ที่รถคันดังกล่าวนี้ 3. สรรพสิ่งหลายสิ่งที่เป็นมาตรฐานมาสัมพันธ์กัน ย่อมเกิดสิ่งที่เป็นมาตรฐานได้หลายสิ่งจึงอาจเกิดสิ่งใหม่ที่ผิด ไปจากมาตรฐานได้หลายสิ่ง ดังนั้นจึงมีข้อสงสัยได้หลายอย่างเช่นกัน สิ่งที่น่าสงสัยหลายสิ่งย่อมนำไปสู่การแสวงหาหลักฐานและข้อเท็จจริงได้ 4. ข้อสงสัยหลาย ๆ ข้อสงสัยจะช่วยให้ได้มาซึ่งหลักฐานและข้อเท็จจริงได้หลายทาง ข้อสงสัยหลาย ๆ ข้อสงสัยนั้นเสมือนช่องทางหลายช่องทางที่จะเข้าไปสู่เป้าหมายคือหลักฐานและข้อเท็จจริง ดังนั้นผลการสืบสวนจึงอยู่ที่ความสามารถของผู้สืบสวนที่จะแสวงหาข้อสงสัยได้มากน้อยเพียงใด เมื่อมีคดีเกิดขึ้นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นคืออดีตที่ผ่านไปแล้ว แต่ธรรมชาติได้กำหนดวงรอบที่สำคัญไว้ก็คือ การหมุนเวียนเปลี่ยนไปของแต่ละวัน มีกลางวัน กลางคืน มีวงรอบที่แน่นอนจนเป็นกฎเกณฑ์ที่เรียกว่าปรากฎการณ์ธรรมชาติ มนุษย์และสิ่งที่อยู่ในโลกนี้ต้องดำเนินไป ตามกฎเกณฑ์ที่ธรรมชาติกำหนด ดังนั้นในวงรอบ 24 ชั่วโมง จะมีบรรยากาศที่เหมือนเดิมกลับ คืนมากิจวัตรของบุคคลก็ดำเนินรอยตามกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ เช่น ต้องออกจากบ้านไปทำงานเวลา 06.00 น. ทุกวัน เจ้าหน้าที่ต้องมาปฏิบัติงานทุกวันเวลา 08.00 น. ถึงเวลา 16.00 น. ก็เลิกงาน เมื่อมีคดีเกิดขึ้นเวลาหนึ่ง ณ เวลานั้นจะมีบรรยากาศ บรรยากาศและสภาพแวดล้อมก็จะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในวันรุ่งขึ้น ณ เวลาเดียวกัน ถ้าผู้สืบสวนไปอยู่ในบรรยากาศเช่นเดียวกับบรรยากาศในวันที่เกิดเหตุ ผู้สืบสวนผู้นั้นจะได้ข้อมูลที่ชัดเจนมากขึ้น และสามารถขีดวง และขอบเขตของการสืบสวนได้ดีขึ้น เมื่อมีปรากฎการณ์อาชญากรรมเกิดขึ้น อาชญากรรมนั้นไม่ได้เกิดขึ้นท่ามกลางความว่างเปล่า แต่มันเกิดขึ้นก่อความเสียหายให้กับเหยื่อ มีตัวอาชญากร มีปัจจัยที่สำคัญอันนำไปสู่ปรากฎการณ์ของอาชญากรรมในคดีนั้น ๆ ปัจจัยที่สำคัญได้แก่ เหยื่อที่ได้รับผลร้าย กิจวัตรของเหยื่อ สถานที่เกิดเหตุ ตัวอาชญากร โอกาสในการเข้าถึงเหยื่อ ความยากง่ายในการเข้าถึงตัวเหยื่อ เงื่อนไขสำคัญแห่งคดี ผลตอบแทนของผู้ที่ประกอบอาชญากรรม โดยสามารถแสดงความสัมพันธ์เทคนิคการสร้างแหล่งข่าวในระดับสถานีตำรวจ พื้นฐานการมองของผู้สืบสวนจะต้องอยู่บนกฎเกณฑ์ที่ว่า มนุษย์ทุกคนมีอิสระเสรีภาพขึ้นพื้นฐาน มีเจตจำนงค์อิสระ มนุษย์ทุกคนมีความแตกต่างรวมทั้งความสามารถที่แตกต่างกัน มนุษย์แสวงหาแต่สิ่งที่ดีสามารถพัฒนาได้ ถ้าผู้ทำการสืบสวนยอมรับหลักการพื้นฐานดังได้กล่าวไว้นี้ผู้สืบสวนจะสามารถสร้างแหล่งข่าวได้ดี เทคนิคการสร้างแหล่งข่าว มีดังนี้ 1. พยายามเข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมของชุมชน และจะต้องเข้าไปมีส่วนร่วมอย่างเข้มข้น 2. การปฏิบัติหน้าที่ทุกครั้งต้องได้แหล่งข่าว 3. การหาแหล่งข่าวในห้องควบคุม 4. การหาแหล่งข่าวโดยใช้เด็กเป็นสื่อ 5. การสร้างสถานการณ์ว่าเคยมีการกระทำผิดเกิดขึ้นใกล้ ๆ บริเวณของ พ่อค้า แม่ค้าที่ประกอบอาชีพขายของในตลาด ท่ารถประจำทาง หรือตามทางเท้า 6. การแนะนำทำความรู้จักกับบุคคลในเขตพื้นที่ 7. การจัดอบรมบุคคลในเขตพื้นที่ กลุ่มบุคคลสำคัญ ๆ ที่สามารถให้ความร่วมมือกับตำรวจ ได้แก่ กลุ่มจักรยานยนต์รับจ้าง กลุ่มผู้ขับรถรับจ้าง กลุ่มไทยอาสาป้องกันชาติ กลุ่มลูกเสือชาวบ้าน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น